Customer Reviews

เรื่องรักน้อยนิดมหาศาล
5
เรื่องรัก บรรยากาศเหงา ของน้อยนิด และ เขา
โดย: chaya วันที่เขียนรีวิว: 16 มกราคม พ.ศ. 2558

หนังสือเล่มนี้ได้อ่าน หลังจากดูภาพยนตร์ชื่อเดียวกันนี้ไปหลายรอบ พอเห็นมีหนังสือก็เลยซื้อมาอ่าน ภาพยนตร์สร้างมาจากหนังสือซึ่งทำมาได้เหมือนในหนังสือเป็นส่วนใหญ่ แต่รายละเอียดบางอย่างที่ภาพยนตร์จะมี บางอย่างก็อยู่ในหนังสือ เรื่องนี้จะรายล้อมไปด้วยบรรยากาศเหงาๆ ของตัวละครอย่างน้อยที่สูญเสียน้องสาว จนเธอพบกับใครอีกคน เคนจิ ชายผู้หมกมุ่นกับการพยายามฆ่าตัวตายและมันไม่เคยสำเร็จ ทั้งสองคนต่างเติมเต็มความหมายของการมีชีวิตอยู่ให้กันและกัน
สิ่งที่ชอบมากๆของหนังเรื่องนี้เลย คือ คาแรคเตอร์ เคนจิ ชายผู้พยายามจะฆ่าตัวตายตลอดเวลา เป็นตัวละครที่มีเหตุผลมากมายเพื่อจะตาย แต่เขากลับไม่เคยทำสำเร็จ ภายหลังเขาได้พบกับน้อย เขากลับพยายามที่จะมีชีวิตอยู่เพียงเพื่อเหตุผลเดียว สำหรับเราเรื่องนี้เป็นหนังและหนังสือที่ประทับใจมากๆ ในภาพยนตร์เราก็ชอบทั้งฉาก ตัวละคร (ยิ่งตอนนั้นน้อยกับนิด แสดงโดยพลอย เฌอมาลย์ กับนุ่น สินิทธาด้วย) ในหนังสือเราก็ชอบตัวหนังสือมาก โดยส่วนตัวแล้ว ติดตามงานเขียนของพี่คุ่น ปราบดา หยุ่น เพราะชอบวิธีการเล่าเรื่องและการเล่นคำ สำหรับเรื่องนี้คิดว่าอ่านง่าย หนังสือหนึ่งเล่มแบ่งเป็นสามภาค ในแต่ละภาคก็จะถูกแบ่งอีก เพื่อเป็นการแยกซีน(ในหนังสือบอกว่าเพื่อง่ายต่อการถ่ายทำภาพยนตร์) ซึ่งในส่วนนี้ บรรยากาศ สถานที่ ก็จะถูกเล่าไปกับตัวละครของซีนนั้นๆ ทำให้เข้าใจง่าย ในหนังสือก็จะมีส่วนที่ต่างจากภาพยนตร์บ้าง เพราะพี่คุ่นเขียนในหนังสือว่า บางอย่างก็เหมาะที่จะอ่าน แต่ไม่จำเป็นที่จะเห็น สำหรับเรื่องนี้แนะนำทั้งหนังสือและภาพยนตร์เลย ประทับใจทั้งสองแบบ แต่แอบเทใจให้กับแบบหนังสือมากกว่าน้อยนิด
3
เรื่องรักในบรรยากาศวงการเพลงยุคหนึ่ง
โดย: chaya วันที่เขียนรีวิว: 16 มกราคม พ.ศ. 2558

เรื่องนี้ซื้อมาอ่านเพราะว่าชอบอ่านงานเขียนของคุณวาณิช จรุงกิจอนันต์ ตอนนั้นค้นตู้หนังสือเก่าที่บ้านเจอเรื่องซอยเดียวกัน เป็นหนังสือรางวัลซีไรท์ ก็ลองอ่านดู เป็นหนังสือที่สนุกมาก จากนั้นก็คิดว่าจะติดตามผลงานของคุณวาณิช ซึ่งเล่มล่าสุดที่เรายังหาซื้ออ่านทันก็คงเป็นเล่มนี้ ณ ที่นั้นมีดาวเหนือ สำหรับเรื่องนี้ สะท้อนเรื่องราววงการเพลง การทำเพลง การใฝ่ฝันถึงการไปกรุงเทพเพื่อจะเป็นนักร้อง โดยมีเรื่องราวความรักพอประมาณ แต่คงไม่ใช่นิยายรักจ๋า เน้นไปที่บรรยากาศวงการเพลงช่วงนั้นมากกว่า โดยรวมเนื้อเรื่องเราชอบไม่มากเท่าซอยเดียวกัน เพราะซอยเดียวกันเป็นเรื่องสั้นด้วยเหตุผลหนึ่งเลยสามารถเล่าเรื่องได้หลากหลายแนวหลากหลายอารมณ์กว่า แต่สำหรับเรื่องนี้เราว่าเนื้อเรื่องค่อนข้างเรียบๆ ไม่หวือหวามาก ด้วยความที่อ่านในช่วงที่วงการเพลงปัจจุบันต่างกับหนังสืออยู่พอสมควร การอ่านหนังสือเล่มนี้เลยได้รู้เกี่ยวกับวงการเพลงในสมัยนั้น เราว่าอารมณ์หนังสือจะคล้ายๆกับหนังเรื่อง Begin Again นะ คือเรื่องราวประมาณนั้นเลย สถานการณ์การทำเพลง หาค่ายเพลง เรื่องรายได้การขายเทป เพียงแต่ตัวละครของ ณ ที่นั้นมีดาวเหนือ จะมีความทะเยอทะยานและดิ้นรนกว่า เรารู้สึกดีที่ได้อ่านงานเขียนแบบนี้ในยุคนี้นะ เพราะเราเกิดไม่ทันในช่วงที่คุณวาณิชเขียนหนังสือ(ซอยเดียวกันเราก็เกิดไม่ทัน) และหนังสือเล่มนี้เป็นเล่มสุดท้ายที่ออกมาหลังจากเราทราบข่าวคุณวาณิชเสียชีวิตแล้ว หนังสือเล่มนี้เป็นอีกเล่มที่ภาษาอ่านง่ายอ่านได้เพลินๆ เป็นนิยายรักที่ไม่น้ำเน่า
ความไม่เรียบของความรัก
4
หนังสือที่สามารถถ่ายทอดความรู้สึกหม่นๆของความรัก
โดย: chaya วันที่เขียนรีวิว: 15 มกราคม พ.ศ. 2558

หนังสือเล่มนี้เป็นผลงานของ ฮิโรมิ คาวากามิ เรื่องสั้นทั้ง 23 เรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับความรัก พูดถึงเรื่องรักแล้ว มันย่อมขรุขระ และไร้เหตุผลอธิบาย หนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องราวหลายรูปแบบของความรัก ผ่านอารมณ์อันแสนอ่อนไหว และบรรยากาศเหงาๆหม่นๆ ช่วงแรกของการอ่านหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างมีปัญหา เพราะยังไม่คุ้นชินกับสไตล์การเล่าเรื่องราวของผู้แต่ง แต่ไม่ได้ทำให้ความน่าอ่านของหนังสือลดลงไป ยังคงอ่านหนังสือเล่มนี้ต่อไป จนสามารถจับจังหวะการเล่าของผู้เขียนได้ จากนั้นมาล้วนเป็นความรู้สึกเงียบเหงาและว่างเปล่าของความรัก ความรู้สึกของการหายไปกับวันธรรมดาที่ยังคงใช้ชีวิต หนังสือเล่มนี้ไม่มีการฟูมฟาย การก่นด่า การจมอยู่กับความทุกข์ เพียงแต่ปล่อยให้มันเข้ามา ผ่านไป และเริ่มใหม่ เรายังดำเนินชีวิตปกติ ในบางอารมณ์ก็คิดถึงเหตุการณ์เหล่านั้น แม้จะเข้าใจสถานการณ์ดี หนังสือเล่มนี้เป็นการเก็บรวบรวมอารมณ์ความรู้สึกวูบหนึ่งเอาไว้ ถ้าอ่านเอาเรื่องราวจะพบว่าเรื่องราวไม่ได้ถูกผูกไว้อย่างแน่นหนา ไม่มีความตื่นเต้น ไม่ชัดเจน เหล่าตัวหนังสือร้อยเรียงกันคล้ายเป็นภาชนะว่างเปล่า เพียงแต่รอให้ใครสักคนได้อ่านและเติมเต็มเรื่องราวด้วยความรู้สึก
สำหรับเราเราประทับใจหนังสือเล่มนี้ ในแง่ที่ว่าสามารถทำงานกับอารมณ์คนอ่าน หนังสือเล่มนี้ไม่ใช่การอ่านที่ต้องการเนื้อเรื่อง แต่ใช้ความรู้สึกในการสัมผัสเรื่องราวเหล่านั้น ช่วงแรกเรายังติดการอ่านเอาเนื้อเรื่องอยู่ เลยอ่านไม่เข้าใจ แต่ลองอ่านไปสักพักก็เข้าใจว่าสิ่งที่ให้เป็นความรู้สึก ความรู้สึกถึงความไม่เรียบของความรักจริงๆ
3
ความหรรษาของคนตัวเล็ก 150 ซม!
โดย: chaya วันที่เขียนรีวิว: 13 มกราคม พ.ศ. 2558

หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องราวของผู้แต่งเอง คือ ทาคากิ นาโอโคะ โดยเป็นตัวแทนของคนญี่ปุ่นตัวเล็ก สูงเพียง 150 ซม จะทำอะไรก็ลำบากไปหมด ในหนังสือก็จะเล่าเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของคนตัวเล็กในชีวิตประจำวันไปจนถึงการต้องเดินทางไกลไปหางานทำในโตเกียว ในแต่ละตอนจะเป็นเรื่องกระจุกกระจิกน่ารักของผู้หญิงตัวเล็ก และวิธีการที่เธอคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เธอพบเจอ อย่างกระโปรงซื้อมายาวเกินไปจะจัดการอย่างไรดี ขึ้นรถไฟที่แน่นเป็นปลากระป๋องจะทำอย่างไร เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เราเองก็พบเจอได้แต่เราอาจมองข้ามไป หนังสือเล่มนี้อาจทำให้ย้อนกลับมามองเห็นอะไรที่เราไม่เคยใส่ใจ บรรยากาศในหนังสือคล้ายกับเป็นไดอารีของผู้แต่ง มีมุขตลกบ้าง มีซึ้งบ้างปนกันไป เป็นหนังสือที่สามารถหยิบมาอ่านเพลินๆ เพราะภาพการ์ตูนสะอาด น่ารัก อ่านง่ายไม่ลายตา แต่จะมีตัวหนังสือที่เป็นส่วนบรรยายจะอ่านยากเล็กน้อย ฟอนต์ที่ใช้คล้ายลายมือวัยรุ่นเขียน
สำหรับเราที่สนใจเรื่องนี้เพราะว่าชอบลายเส้นการ์ตูนดูสะอาดตาดี ภาพการ์ตูนด้านในเล่มเป็นสี่สี โดยรวมหนังสือน่ารัก ก็เลยซื้อมาสะสมไว้ ในส่วนเนื้อหาก็อ่านง่ายดี อ่านเพื่อผ่อนคลาย แต่เราจะชอบอ่านหนังสือเนื้อหาหนักๆมากกว่า ชอบหนังสือหนาๆ ถ้าเป็นหนังสือที่สนุกแล้วหนาจะชอบมาก เพราะจะได้มีไว้อ่านนานๆ พอมาอ่านหนังสือเล่มนี้เลยอ่านจบเร็วมาก 555 เหมาะสำหรับคนไม่ชอบอ่านหนังสือยาวๆ หรือมีเวลาอ่านหนังสือในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ลองหยิบเล่มนี้ไปอ่านดูค่ะ
3
ความหรรษาของคนตัวเล็ก 150 ซม!
โดย: chaya วันที่เขียนรีวิว: 13 มกราคม พ.ศ. 2558

หนังสือเล่มนี้เล่าเรื่องราวของผู้แต่งเอง คือ ทาคากิ นาโอโคะ โดยเป็นตัวแทนของคนญี่ปุ่นตัวเล็ก สูงเพียง 150 ซม จะทำอะไรก็ลำบากไปหมด ในหนังสือก็จะเล่าเกี่ยวกับความเป็นอยู่ของคนตัวเล็กในชีวิตประจำวันไปจนถึงการต้องเดินทางไกลไปหางานทำในโตเกียว ในแต่ละตอนจะเป็นเรื่องกระจุกกระจิกน่ารักของผู้หญิงตัวเล็ก และวิธีการที่เธอคิดค้นขึ้นมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่เธอพบเจอ อย่างกระโปรงซื้อมายาวเกินไปจะจัดการอย่างไรดี ขึ้นรถไฟที่แน่นเป็นปลากระป๋องจะทำอย่างไร เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆที่เราเองก็พบเจอได้แต่เราอาจมองข้ามไป หนังสือเล่มนี้อาจทำให้ย้อนกลับมามองเห็นอะไรที่เราไม่เคยใส่ใจ บรรยากาศในหนังสือคล้ายกับเป็นไดอารีของผู้แต่ง มีมุขตลกบ้าง มีซึ้งบ้างปนกันไป เป็นหนังสือที่สามารถหยิบมาอ่านเพลินๆ เพราะภาพการ์ตูนสะอาด น่ารัก อ่านง่ายไม่ลายตา แต่จะมีตัวหนังสือที่เป็นส่วนบรรยายจะอ่านยากเล็กน้อย ฟอนต์ที่ใช้คล้ายลายมือวัยรุ่นเขียน
สำหรับเราที่สนใจเรื่องนี้เพราะว่าชอบลายเส้นการ์ตูนดูสะอาดตาดี ภาพการ์ตูนด้านในเล่มเป็นสี่สี โดยรวมหนังสือน่ารัก ก็เลยซื้อมาสะสมไว้ ในส่วนเนื้อหาก็อ่านง่ายดี อ่านเพื่อผ่อนคลาย แต่เราจะชอบอ่านหนังสือเนื้อหาหนักๆมากกว่า ชอบหนังสือหนาๆ ถ้าเป็นหนังสือที่สนุกแล้วหนาจะชอบมาก เพราะจะได้มีไว้อ่านนานๆ พอมาอ่านหนังสือเล่มนี้เลยอ่านจบเร็วมาก 555 เหมาะสำหรับคนไม่ชอบอ่านหนังสือยาวๆ หรือมีเวลาอ่านหนังสือในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ก็ลองหยิบเล่มนี้ไปอ่านดูค่ะ
3
แด่ช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่าเราเป็นนิรันดร์!
โดย: chaya วันที่เขียนรีวิว: 13 มกราคม พ.ศ. 2558

เรื่องนี้ซื้อมาอ่านเพราะช่วงนั้นไปดูหนังเรื่องนี้มาแล้วรู้สึกว่าหนังไปไม่ค่อยสุดในเรื่องความรู้สึก ตอนดูจบเลยไม่ค่อยอินเท่าไร เราคิดว่าน่าจะลองหาหนังสือมาอ่านดู เผื่อจะเข้าใจตัวละครมากขึ้น หนังสือจะเล่าในมุมมองของตัวเอกอย่างชาร์ลี ผ่านการเขียนจดหมาย ผ่านเรื่องราวต่างๆในช่วงเหตุการณ์วัยรุ่น ทั้งความต้องการการยอมรับจากใครสักคน เรื่องความรัก เรื่องเพื่อน เรื่องอนาคต ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ออกแนวทำนองอธิบายว่าชีวิตวัยรุ่นควรทำแบบนี้ มันควรจะเป็นแบบนี้ แต่เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ชาร์ลีประสบพบเจอ ความรู้สึกในช่วงวัยรุ่น เหตุการณ์ในช่วงการก้าวสู่วัยเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นผู้ใหญ่ เรื่องราวต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาจากคนที่ไม่โดดเด่นอย่างชาร์ลี การเล่าเรื่องจึงเรียบง่าย และไม่ซับซ้อนต้องตีความเยอะ แม้แต่การเล่าเรื่องเหตุการณ์หนักๆที่ตัวละครในเรื่องพบเจอ สามารถเล่าออกมาได้ไม่ดรามาจนเกินไป การอ่านหนังสือเล่มนี้สำหรับเรา คือเหมือนถ่ายทอดเหตุการณ์ในช่วงวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความสับสนในหลายๆอย่าง การลองผิดลองถูก ความหลงใหลในบทเพลง ตัวหนังสือ หรือแม้กระทั่งใครสักคน เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่อ่านได้เพลินๆนะสำหรับเรา แต่เราคิดว่าด้วยความที่มันเป็นการเขียนจดหมายให้เพื่อนอ่าน ความหนักในบางช่วงเลยน้อยไปหน่อยทำให้เราไม่ค่อยอินไปกับเรื่องมากนัก(ทั้งในหนังและหนังสือเลย) แต่การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ให้ความรู้สึกที่ดีนะ ในแง่ที่มันไม่ได้เชิงสั่งสอน แต่คล้ายกับเป็นบทบันทึกของช่วงเวลาวัยรุ่น ช่วงเวลาแห่งการเจอเรื่องที่สุดในชีวิต ช่วงที่เรารู้สึกว่าเรากับโลกรอบตัวนั้นเป็นนิรันดร์
3
แด่ช่วงเวลาที่เรารู้สึกว่าเราเป็นนิรันดร์!
โดย: chaya วันที่เขียนรีวิว: 13 มกราคม พ.ศ. 2558

เรื่องนี้ซื้อมาอ่านเพราะช่วงนั้นไปดูหนังเรื่องนี้มาแล้วรู้สึกว่าหนังไปไม่ค่อยสุดในเรื่องความรู้สึก ตอนดูจบเลยไม่ค่อยอินเท่าไร เราคิดว่าน่าจะลองหาหนังสือมาอ่านดู เผื่อจะเข้าใจตัวละครมากขึ้น หนังสือจะเล่าในมุมมองของตัวเอกอย่างชาร์ลี ผ่านการเขียนจดหมาย ผ่านเรื่องราวต่างๆในช่วงเหตุการณ์วัยรุ่น ทั้งความต้องการการยอมรับจากใครสักคน เรื่องความรัก เรื่องเพื่อน เรื่องอนาคต ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้ออกแนวทำนองอธิบายว่าชีวิตวัยรุ่นควรทำแบบนี้ มันควรจะเป็นแบบนี้ แต่เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่ชาร์ลีประสบพบเจอ ความรู้สึกในช่วงวัยรุ่น เหตุการณ์ในช่วงการก้าวสู่วัยเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นผู้ใหญ่ เรื่องราวต่างๆถูกถ่ายทอดออกมาจากคนที่ไม่โดดเด่นอย่างชาร์ลี การเล่าเรื่องจึงเรียบง่าย และไม่ซับซ้อนต้องตีความเยอะ แม้แต่การเล่าเรื่องเหตุการณ์หนักๆที่ตัวละครในเรื่องพบเจอ สามารถเล่าออกมาได้ไม่ดรามาจนเกินไป การอ่านหนังสือเล่มนี้สำหรับเรา คือเหมือนถ่ายทอดเหตุการณ์ในช่วงวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยความสับสนในหลายๆอย่าง การลองผิดลองถูก ความหลงใหลในบทเพลง ตัวหนังสือ หรือแม้กระทั่งใครสักคน เรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่อ่านได้เพลินๆนะสำหรับเรา แต่เราคิดว่าด้วยความที่มันเป็นการเขียนจดหมายให้เพื่อนอ่าน ความหนักในบางช่วงเลยน้อยไปหน่อยทำให้เราไม่ค่อยอินไปกับเรื่องมากนัก(ทั้งในหนังและหนังสือเลย) แต่การได้อ่านหนังสือเล่มนี้ก็ให้ความรู้สึกที่ดีนะ ในแง่ที่มันไม่ได้เชิงสั่งสอน แต่คล้ายกับเป็นบทบันทึกของช่วงเวลาวัยรุ่น ช่วงเวลาแห่งการเจอเรื่องที่สุดในชีวิต ช่วงที่เรารู้สึกว่าเรากับโลกรอบตัวนั้นเป็นนิรันดร์
www.batorastore.com © 2024